เคล็ดลับดูแลรถยนต์ในช่วงหน้าร้อน

อัพเดทเมื่อ Wed Apr 30 2025

https://tiresbid-pub-images.s3.ap-southeast-7.amazonaws.com/2025-04-30/111311-1745986391-Backlink-bolttech-x-Tiresbid--header.webp
เคล็ดลับดูแลรถยนต์ในช่วงหน้าร้อน
 

          เมื่อประเทศไทยเข้าสู่ช่วงหน้าร้อนทีไร อากาศร้อนช่างอบอ้าวมาก นอกจากจะทำให้คนเป็นโรคฮีตสโตรก หรือโรคลมแดดแล้ว รถยนต์ก็อาจเป็นฮีตสโตรกได้เช่นกัน หากคุณไม่ได้ดูแลรักษาอย่างเหมาะสม ตากแดดนานๆ ยิ่งทำให้รถเกิดความเสียหายต่างๆ และเสี่ยงต่อเกิดอุบัติเหตุได้ แล้วนี่คือ วิธีการดูแลรถยนต์ในช่วงฤดูร้อน ที่ไม่ควรมองข้าม มาฝากทุกคนกัน

1. เช็กระบบหล่อเย็น (หม้อน้ำ)
 

          ระบบหล่อเย็น ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไป ควรตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำอยู่เสมอ s,yjoเติมน้ำยาหล่อเย็น (Coolant) ให้เพียงพอ รวมถึงเช็กสภาพท่อยางและหม้อน้ำว่ามีรอยรั่วหรือแตกร้าวหรือไม่

2. ดูแลแบตเตอรี่ 
 

          เมื่อแบตเตอรี่เกิดอุณหภูมิสูง ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพได้ง่ายกว่าปกติ ควรเช็กแรงดันไฟฟ้า และทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีคราบเกลือ หรือคราบสกปรกเกาะอยู่

3. ตรวจสภาพยางรถยนต์


 
          อากาศร้อนๆ ยิ่งทำให้แรงดันลมยางเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้ยางระเบิดได้ ทางที่ดีคุณควรตรวจสอบแรงดันลมยางก่อนออเดินทาง รวมถึงเช็กสภาพยางว่ายังมีดอกยางเพียงพอ และไม่มีรอยแตกหรือบวมผิดปกติ

4. ตรวจสอบน้ำมันเครื่องและของเหลวต่างๆ
 
         
           น้ำมันเครื่อง ทำหน้าที่หล่อลื่นและระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ หมั่นตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง และเปลี่ยนตามระยะเวลาที่กำหนด รวมถึงตรวจสอบของเหลวอื่น ๆ เช่น น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ และน้ำฉีดกระจกด้วย

5. ตรวจสอบระบบแอร์
 
         
          ในช่วงหน้าร้อนนี้ อาจทำให้แอร์รถทำงานหนัก เกิดปัญหาแอร์รถยนต์ไม่เย็น วิธีดูแลแอร์รถยนต์คือ ควรล้างแอร์ทุกๆ 2 ปี หรือทุก 30,000 กิโลเมตร  และเปลี่ยนไส้กรองแอร์เป็นประจำทุก 1 ปี หรือเปลี่ยนเมื่อรถยนต์ครบระยะ 20,000 กิโลเมตร และอย่าลืมหมั่นตรวจสอบน้ำยาแอร์อยู่เสมอทุก 6 เดือน เพื่อให้มั่นใจว่าแอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

6. ดูแลภายนอกและภายในรถ


 
           เพราะแดดแรงจัดๆ ที่ส่องโดนตัวรถ อาจทำลายสีรถ ของคุณดูซีดหมอง และวัสดุภายในห้องโดยสารเสื่อมสภาพได้ง่าย ทางที่ดีคุณควรจอดรถในร่ม หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ควรใช้ผ้าคลุมรถแทน หรืออาจติดฟิล์มกรองแสง เพื่อลดความร้อนภายในรถ รวมถึงหมั่นล้างรถ เพื่อขจัดฝุ่นละอองที่เกาะตามพื้นผิว

7. เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินให้พร้อม
 

          กรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน ควรมีอุปกรณ์ฉุกเฉินติดรถไว้ เช่น น้ำดื่ม ไฟฉาย ไขควง สายพ่วงแบตเตอรี่ และเครื่องมือพื้นฐานสำหรับซ่อมเบื้องต้น หากรถเสียกลางทางจะได้แก้ไขสถานการณ์ถ่วงทันเวลา

          ก่อนที่ผู้ขับขี่ออกเดินทาง แนะนำให้ตรวจเช็คอุปกรณ์ และชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆ ของรถยนต์ ไม่เพียงแค่ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย และความสบายในการเดินทางด้วย สุดท้ายนี้เพื่อนๆ อย่าลืมนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้ เพื่อดูแลรถคู่ใจของคุณกันด้วยนะ 

ขอบคุณข้อมูลจาก: bolttech.co.th